Home » » ลดเวลาแถลงผลงานรัฐบาลรอบ1ปี จาก3วันเหลือวันเดียว ให้รมต.พูดผ่านทีวีถึง13ม.ค.59

ลดเวลาแถลงผลงานรัฐบาลรอบ1ปี จาก3วันเหลือวันเดียว ให้รมต.พูดผ่านทีวีถึง13ม.ค.59

Written By Thang Thach on Saturday, January 2, 2016 | 10:42 AM



 เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับการแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีของรัฐบาล เดิมกำหนดไว้3วัน ระหว่างวันที่ 23-25 ธ.ค.นี้นั้น ล่าสุดจากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นตรงกันว่าการแถลวผลงานรัฐบาลจากเดิมใช้เวลายาวถึง 3 วัน อาจทำให้ยืดเยื้อ จึงต้องการให้เกิดความกระชับ จึงเห็นชอบร่วมกันให้จัดแถลงผลงานรัฐบาลเพียงวันเดียวในวันที่ 23ธ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.30น.โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะใช้เวลา1ชั่วโมง เพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่รัฐบาลดำเนินการมา จากนั้นมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีแต่ละด้าน ชี้แจงถึงความคืบหน้า รวมทั้งแผนดำเนินงานในส่วนที่รับผิดชอบ ใช้เวลาคนละ 20 นาที จากนั้นในช่วงบ่ายจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามประเด็นต่างๆ พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดนิทรรศการแสดงผลงานในวาระครบรอบ 1ปีการดำเนินงานของรัฐบาล บริเวณถนนหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะจัดแสดงระหว่างวันที่ 23-25ธ.ค.นี้

 พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงจะแถลงผลงานผ่านทางรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.58 - 13 ม.ค.59 ซึ่งมีกำหนดการของแต่ละกระทรวง ดังนี้ วันที่ 23ธ.ค.เป็นการแถลงของกระทรวงกลาโหม วันที่ 24ธ.ค.กระทรวงแรงงาน วันที่ 26ธ.ค.กระทรวงมหาดไทย วันที่ 27 ธ.ค.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วันที่28ธ.ค. กระทรวงยุติธรรม วันที่29 ธ.ค.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วันที่30ธ.ค. กระทรวงวัฒนธรรม วันที่31ธ.ค. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วันที่ 2ม.ค.กระทรวงพลังงาน วันที่ 3ม.ค.กระทรวงศึกษาธิการ วันที่วันที่4ม.ค.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วันที่5ม.ค.กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 6ม.ค.กระทรวงการคลัง วันที่ 7 ม.ค.กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 9ม.ค.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันที่ 10ม.ค. กระทรวงคมนาคม วันที่ 11ม.ค.กระทรวงพาณิชย์ วันที่12ม.ค.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ วันที่13ม.ค.กระทรวงอุตสาหกรรม




ที่มา  khaosod.co.th

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

9 อันดับ ข่าวยอดนิยม

Powered by Blogger.