นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน ระหว่างสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป (เอียซ่า) ว่า หลังจากลงนาม เอียซ่าจะให้ความช่วยเหลือไทย ด้านการจัดทำกฎระเบียบและการแลกเปลี่ยนบุคลากร
โดยการนำแนวคิด วิธีการ กฎระเบียบ วิธีปฏิบัติและเอกสารคู่มือต่างๆ ของเอียซ่ามาเป็นแนวทางการออกกฎระเบียบด้านความปลอดภัยการบินของไทย การปรับปรุงคุณภาพบุคลากร เปิดโอกาสให้ไทยได้เข้าไปศึกษาระบบการทำงานของเอียซ่าและนำประสบการณ์มาใช้แก้ไขปัญหา รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรด้านการบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายอาคม กล่าวต่อว่า ส่วนผลประเมินของเอียซ่าที่จะประกาศเป็นทางการในวันที่ 10 ธ.ค.นั้น ยังบอกไม่ได้ว่าผลจะออกมาอย่างไร เพราะเป็นการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการอียู ไม่ใช่เอียซ่า สำหรับความเห็นส่วนตัวมองว่าการลงนามร่วมกันครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เอียซ่าพอใจที่เราบรรลุข้อตกลงความร่วมมือในการเข้ามาสร้างความเข้มแข็งให้หน่วยงานด้านความลปอดภัยด้านการบินของไทย
อย่างไรก็ตาม การลงนามก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเราจะผ่านการประเมิน ซึ่งในวันที่ 10 ธ.ค. เอียซ่าจะประกาศผลการประเมินสายการบินทั่วโลกที่บินเข้าไปยังอียู ไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น
แหล่งข่าวจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การประกาศผลเอียซ่าในวันที่ 10 ธ.ค. ไม่ว่าจะออกมารูปแบบใด การบินไทยจะไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้เอียซ่าเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานของสายการบินไทย พร้อมออกใบอนุญาตรับรองให้สามารถบินเข้าประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปได้แล้ว ตามโครงการ ‘TCO’ (Third Country Operators)
ซึ่งเป็นโครงการที่เอียซ่าจัดทำขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือสายการบินที่มีมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล ให้สามารถทำการบินไปยังชาติสมาชิกยุโรปได้ แม้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลมาตรฐานการบินในประเทศเจ้าของสายการบิน จะมีปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินก็ตาม
ที่มา khaosod.co.th
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment